Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content
Financial Planning
5 เทคนิควางแผนภาษี ตั้งแต่ต้นปี
พูดถึงภาษี ที่ผ่านมาบางคนอาจจะไม่ได้สนใจ ยิ่งมนุษย์เงินเดือนเจอบริษัทหักไปทุกเดือน ไม่เคยลองเอามารวมกัน ก็รู้สึกว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่มากเท่าไหร่ แต่พอถึงฤดูกาลยื่นภาษี ภายในเดือนมีนาคม ค่อยมาตกใจว่าทำไมเราเสียภาษีเยอะจัง จริงๆ แล้ว “ภาษี” คือ ค่าใช้จ่ายที่สามารถประหยัดได้ค่ะ หากมีการวางแผนภาษีด้วย 5 เทคนิควางแผนภาษี ดังนี้ค่ะ
1.ประมาณการรายได้ทั้งปี

เพื่อให้รู้ว่าในปีภาษีปัจจุบันนี้ เรามีรายได้ประมาณเท่าไร เสียภาษีในฐานอะไร จะได้วางแผนลงทุนเพื่อลดเงินได้สุทธิลง ทำให้เสียภาษีในฐานที่ต่ำลงค่ะ โดยเราสามารถลองคำนวณภาษีได้จากโปรแกรม
 
K-Expert Tax Buddy
https://k-expert.askkbank.com/DIYTools/Pages/K-ExpertTaxBuddy.aspx

2.แจ้ง HR ให้หักลดหย่อนภาษีส่วนบุคคล

เพื่อให้ภาษีที่หักนำส่งสรรพากรใกล้เคียงกับภาษีที่ต้องจ่ายจริง ทั้งสิทธิลดหย่อนส่วนตัว เช่น ค่าลดหย่อนบุตร ค่าลดหย่อนบิดามารดา ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน เป็นต้น และสิทธิลดหย่อนจากการลงทุน เช่น ประกันชีวิต กองทุน LTF/RMF เป็นต้น

3.ใช้สิทธิลดหย่อนให้เต็มที่ และลงทุนเพื่อประหยัดภาษี

เริ่มจากการสำรวจสิทธิให้ครบถ้วน เพราะนอกจากค่าลดหย่อนส่วนตัวแล้ว ค่าลดหย่อนที่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เช่น ค่าเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา ค่าเบี้ยประกันชีวิต เงินลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หรือ เงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ต้องไม่ลืมนำมาหักลดหย่อนด้วย ซึ่งหากระหว่างปีมีรายได้เพิ่มก็ควรปรับแผนด้วยการลงทุนในกองทุน LTF/RMF ประกันชีวิต หรือประกันชีวิตแบบบำนาญเพิ่มขึ้น

4.ขอคืนภาษีเงินปันผลที่เสียซ้ำซ้อน

กรณีที่มีการลงทุนในหุ้นสามัญจดทะเบียน และได้รับเงินปันผล แนะนำให้ขอคืนภาษีเงินปันผล (เครดิตภาษีเงินปันผล) เนื่องจากเงินปันผลที่ได้รับจากบริษัทที่ลงทุนมีการเสียภาษีนิติบุคคลมาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น และเมื่อผู้ถือหุ้นได้รับเงินปันผลจะต้องเสียภาษีเงินปันผล ณ ที่จ่ายอีก 10% ถือเป็นการจ่ายภาษีซ้ำซ้อน หากฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของตัวเราต่ำกว่า 30% แนะนำให้ลองนำเงินปันผลที่ได้รับมารวมเป็นเงินได้ เพื่อขอเครดิตภาษีเงินปันผล โดยเปรียบเทียบทั้งกรณีที่นำเงินปันผลมารวม และไม่ได้นำมารวม ว่าแบบไหนเสียภาษีน้อยกว่ากันค่ะ

5.เลือกยื่นแบบให้เหมาะ

โดยเฉพาะคู่สามีภรรยา เพราะการเลือกแบบให้เหมาะกับตนเองและคู่สมรสจะช่วยให้สามารถประหยัดภาษีได้คะ

เลือกแบบเหมาะกับ
แยกยื่นเหมาะกับคู่สมรสที่มีเงินได้อยู่ในฐานภาษีเดียวกัน การแยกยื่นจะทำให้คู่สมรสได้รับการยกเว้นภาษี 150,000 บาทแรห จึงทำให้มีโอกาสเสียภาษีน้อยกว่าการร่วมยื่น
ยื่นรวมเงินได้ทุกประเภทเหมาะกับคู่สมรสที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีรายได้ไม่สูงนัก แต่มีรายการที่ใช้หักเป็นค่าลดหย่อนได้มาก
ยื่นรวมเฉพาะเงินได้ประเภทอื่นเหมาะกับคู่สมรสที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่มีเงินได้ประเภทเงินเดือนสูง และมีเงินได้ประเภทอื่น วิธีนี้ก็จะช่วยให้ฐานภาษีของตนเองลดลง

เมื่อวางแผนภาษีแล้ว ควรลงมือทันทีค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนเพื่อประหยัดภาษี สามารถลงทุนทุกๆ เดือน เพื่อเป็นการเฉลี่ยต้นทุนได้ค่ะ

AUTHOR


ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษา
ลูกค้าบุคคล (K-Expert)

RELATED STORY